ทุกคนรู้กันดีว่าดนตรีและศิลปะ หลายๆครั้งช่วยเยียวยาจิตใจเราเนอะ ❤️🩹 ช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียด ได้โฟกัส เป็นได้ทั้งงานอดิเรกและความบันเทิง บางครั้งทำให้เรารู้สึกเหมือนมีคนเข้าใจ ช่วยให้เราได้คิดหรือตระหนักอะไรขึ้นมาอีกด้วย
เพื่อนๆอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับดนตรีบำบัด หรือศิลปะบำบัด ที่เป็นเครื่องมือหนึ่งในการบำบัดรักษาสุขภาพจิต การมีเวลาทำกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีและศิลปะก็ดูเป็นไอเดียที่ดีและน่าสนุกจริงๆ
แต่ทำไมเราจึงไม่สามารถบอกได้ว่า จิตแพทย์ที่ดีที่สุด คือดนตรีและศิลปะ ?
เพราะกระบวนในการดูแลรักษาจิตใจ ไม่ได้มีแค่จิตแพทย์ หรือดนตรี หรือศิลปะ แต่ยังคงมีสหวิชาชีพด้านสุขภาพจิตที่คอยทำงานร่วมกัน ในบทบาทที่แตกต่างหลากหลายกันไปตามลักษณะของงาน ไม่ว่าจะเป็น นักจิตวิทยาการปรึกษา นักจิตวิทยาคลินิก นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล นักศิลปะบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และอื่นๆอีกมากมายเลยค่ะ
ที่ต้องมีสหวิชาชีพที่หลากหลายด้านสุขภาพจิต แง่หนึ่งก็เพราะว่า เรื่องจิตใจบางครั้งไม่ได้แก้ไขที่จุดเดียวแล้วจบ แต่เกี่ยวพันกับหลายแง่มุม การดูแลสุขภาพใจจึงควรมองเป็นภาพรวม ที่เราจะดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ การใช้ชีวิต การเลือกทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันไปพร้อมๆกัน
ในอีกแง่ สุขภาพจิตก็เป็นเรื่องของมนุษย์ และมนุษย์คือความแตกต่างหลากหลาย มันจึงไม่มีคำว่าดีที่สุด มีแต่ทางที่เหมาะกับใครเท่านั้น
การบอกว่าวิธีไหนดีที่สุด จึงอาจเป็นเหมือนการหาคำตอบสำเร็จรูป ให้เรื่องสุขภาพจิตมากเกินไป จนไม่เปิดพื้นที่ให้ความหลากหลายของมนุษย์และจิตใจ
และแม้ว่าดนตรีและศิลปะจะมี ‘พลังในการบำบัด’ จริงๆ แต่การนำมาใช้เพื่อบำบัดก็มีรายละเอียดและวิธีการนะคะ
เราจึงมีนักศิลปะบำบัด หรือนักดนตรีบำบัด ที่เรียนรู้และฝึกฝนว่า จะต้องใช้ดนตรีและศิลปะอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อการบำบัดและปลอดภัยต่อผู้มาบำบัดด้วย
ดนตรีและศิลปะสามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์ของเราได้ง่าย (เหมือนที่เราฟังเพลงแล้วก็ร้องไห้) การเลือกประเภทของดนตรีและศิลปะมาใช้ในการดูแลใจจึงสำคัญเช่นกัน เพลงบางเพลง รูปบางรูป ก็กระตุ้นให้อารมณ์ที่ดิ่งอยู่แล้วยิ่งดิ่งลงไปอีกได้
ตรงนี้เพื่อนๆอาจเห็นภาพชัดขึ้นว่า การกระโดดไปฟังเพลง หรือระบายสี ไม่เท่ากับกระบวนการบำบัดทั้งกระบวนการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวมันเองมีความสามารถในการช่วยบรรเทาความเครียดและเยียวยาจิตใจมากจริงๆนะ